ไฮไลท์
พอสท์ คาร์โบซัลแฟน 20%
คุมไข่ ตัวอ่อน ตัวแก่ เพลี้ยไฟ หนอน สารแบบดูดซึม
ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า

สารป้องกันกำจัดแมลง(หนอนและแมลง) พอสซ์ (คาร์โบซัลแฟน 20%) ตราเอฟ.เอ็ม.ซี(FMC)

สารป้องกันกำจัดแมลง พอสซ์ (คาร์โบซัลแฟน 20%) ตราเอฟ.เอ็ม.ซี(FMC) : สารป้องกันกำจัดแมลง พอสซ์ (คาร์โบซัลแฟน 20%) ตราเอฟ.เอ็ม.ซี (FMC) เป็นสารป้องกันกำจัดแมลงชนิดดูดซึม

ชื่อสามัญ : คาร์โบซัลแฟน (carbosulfan)

สารสำคัญ : 2,3 dihydro-2,2dimethyllbenzofuran-7-yl(dibutylaminothio)methylcarbamate…………. 20% W/V EC

กลุ่มสารเคมี : carbamate (กลุ่ม 1A)

พอสซ์ ใช้ป้องกันกำจัดศัตรูพืช

  • ถั่วเขียว ถั่วต่างๆ ใช้ในการป้องกันแมลงศัตรูพืชในไร่ เช่น เพลี้ยอ่อน หนอนแมลงวัน หนอนแมลงวันเจาะต้นถั่ว หมัดกระโดด เพลี้ยไฟ แมลงหวี่ขาว หนอนม้วนใบ แมงกะชอน มด ปลวก ไส้เดือนฝอย เป็นต้น
  • ฝ้าย เช่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ หนอนม้วนใบ เป็นต้น
  • ข้าว เช่น มดง่าม ปลวก เพลี้ยไฟ หนอนม้วนใบ เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล หนอนของแมลงค่อมทอง หนอนกอ เป็นต้น
  • ข้าวโพด เช่น มด ปลวก หนอนกินราก เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ หนอนเจาะลำต้น ตั๊กแตน เป็นต้น
  • พืชในโรงเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าว ข้าวโพด ถั่วต่างๆ เช่น มด มอด ด้วงพอสซ์(คาร์โบซัลแฟน 20%)

ปล. ข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆโปรดติดต่อปรึกษาโดยตรงได้ทาง line

วิธีใช้ พอสซ์

  • ป้องกันกำจัด เพลี้ยไฟ เพลี้ยแป้ง เพลี้ยอ่อน แมลงหวี่ขาว เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล หนอนเจาะลำต้นพืชไร่ ใช้อัตรา 30 – 60 มิลลิลตร ผสมน้ำ 20 ลิตร พ่นลงบนพืชปลูก ทุก 7 วัน
  • ป้องกันกำจัด ด้วงหมัดผัก ใช้อัตรา 50 – 75 มิลลิลตร ผสมน้ำ 20 ลิตร พ่นลงบนพืชปลูก ทุก 7 วัน
  • ป้องกันกำจัด หนอนกอข้าว เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ใช้อัตรา 80 – 110 มิลลิลตร ผสมน้ำ 20 ลิตร พ่นลงบนพืชปลูก ทุก 7 วัน 

ศึกษาเรื่องการใช้สารเคมีเพิ่มเติมได้ที่นี่ แนะนำสารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืช และวิธีการสลับยา(ป้องกันการดื้อยา)

ตรวจสอบกลุ่มสารเคมี ที่นี่

 

ข้อปฏิบัติที่แนะนำในการใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืชและศัตรูพืช

การเลือกใช้และการเลือกซื้อสาร

   1.  เลือกใช้สารชนิดที่ถูกต้องกับชนิดของศัตรูพืช เฉพาะกรณีที่จำเป็นในปริมาณที่เพียงพอต่อการใช้ในแต่ละครั้ง
   2.  ภาชนะที่บรรจุไม่แตกหรือรั่ว มีฝาปิดมิดชิด มีฉลากถูกต้องชัดเจน ประกอบด้วยชื่อเคมี ชื่อสามัญของสารออกฤทธิ์และชื่อการค้า ระบุปริมาณของสารออกฤทธิ์และสารอื่นๆ ที่ผสม ชื่อผู้ผลิตและแหล่งผลิต วันหมดอายุ (ถ้ามี) หรือวันผลิต คำอธิบาย ประโยชน์ วิธีใช้ วิธีเก็บรักษา คำเตือน คำอธิบายอาการเกิดพิษ การแก้พิษเบื้องต้นและคำแนะนำสำหรับแพทย์

 

ข้อปฏิบัติในการใช้สาร

   1. ก่อนใช้อ่านฉลากโดยตลอดให้เข้าใจอย่างละเอียดถูกต้องและปฏิบัติตามคำแนะนำโดยเคร่งครัด ไม่ใช้เกินอัตราที่กำหนด และห้ามผสมสารตั้งแต่ 1 ชนิดขึ้นไปในการพ่นครั้งเดียว ยกเว้นกรณีที่แนะนำให้ใช้
   2. ตรวจสอบชิ้นส่วนสำคัญของเครื่องพ่นสาร ดูการรั่วซึมของเครื่อง สายยาง รอยต่อ และประเก็นต่างๆ หากพบให้ทำการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนส่วนที่ชำรุดทันที
   3. สวมใส่ชุดป้องกันสาร ได้แก่ เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว รองเท้าบู๊ทยาง ถุงมือยาง แว่นตา หน้ากากให้มิดชิด เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้สารถูกผิวหนัง เข้าตาหรือหายใจเข้าไป
   4. จัดเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็น ตวงสารตามอัตราส่วนที่ฉลากแนะนำโดยใช้ถ้วยตวงหรือช้อน การผสมควรทำอย่างระมัดระวังอย่าใช้มือผสมให้ใช้ไม้กวนหรือคลุกให้เข้ากัน
   5. ขณะที่ฉีดพ่นควรอยู่เหนือลดเสมอ หยุดพักเมื่อลมแรงหรือมีลมหวน และควรพ่นสารในตอนเช้าหรือตอนเย็น
   6. อย่าสูบบุหรี่หรือดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารขณะใช้สาร
   7. อย่าใช้ปากเปิดขวดหรือเป่าดูดสิ่งอุดตันที่หัวฉีด ควรทำความสะอาดด้วยแปรงอ่อนๆ หรือต้นหญ้า
   8. ระวังไม่ให้ละอองสารปลิวเข้าหาตัวและถูกคน สัตว์เลี้ยง บ้านเรือน อาหารและเครื่องดื่มของผู้ที่อยู่ข้างเคียง
   9. ในขณะทำงานหากร่างกายเปื้อนสารต้องรีบล้างน้ำและฟอกสบู่ให้สะอาดทันที ก่อนที่สารจะซึมเข้าสู่ร่างกาย
   10. สารที่ผสมเป็นสารละลายแล้วไม่ได้ใช้ ไม่ควรเก็บไว้ใช้อีก ควรฉีดพ่นให้หมดทุกครั้งที่ผสมใช้
   11. ติดป้ายห้ามเข้าบริเวณที่พ่นสารและหยุดพ่นก่อนเก็บเกี่ยวตามที่ฉลากระบุเพื่อความปลอดภัยในการบริโภค
   12. ทำความสะอาดภาชนะบรรจุหรืออุปกรณ์เครื่องพ่นลงไปในพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้ห่างจากแหล่งน้ำ
   13. ซักเสื้อผ้าที่สวมใส่ขณะพ่นสารแยกต่างหากจากเสื้อผ้าอื่น แล้วอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายทันที
   14. ถ้ารู้สึกไม่สบายให้หยุดใช้สารแล้วรีบไปพบแพทย์พร้อมภาชนะบรรจุสารที่มีฉลากปิดอยู่ครบถ้วน หรือปฐมพยาบาลเบื้องต้นตามคำแนะนำในฉลากก่อนส่งสถานีอนามัยและโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด

 

การขนส่งและการเก็บรักษา

   1. แยกการขนส่งสารกำจัดศัตรูพืชจากสิ่งของอย่างอื่น โดยเฉพาะคน สัตว์ และอาหาร
   2. เก็บสารกำจัดศัตรูพืชไว้ในภาชนะเดิมเท่านั้น อย่าถ่ายภาชนะโดยเด็ดขาด
   3. ควรเก็บสารไว้ในโรงเก็บที่แยกจากที่พักโดยไม่ปะปนกับสิ่งของอื่นๆ หรืออาหาร ปลอดภัยห่างไกลจากเด็ก สัตว์เลี้ยง แหล่งกำเนิดไฟและไม่ชื้นแฉะ ควรติดป้ายเตือนและใส่กุญแจ

 

การทำลายวัตถุมีพิษและภาชนะบรรจุสาร

   1. เลือกสถานที่จะขุดหลุมฝังภาชนะบรรจุสารที่ใช้หมดแล้วให้ห่างจากแหล่งน้ำและที่พักอย่างน้อย 50 เมตร เป็นพื้นที่ไม่ใช้ประโยชน์ และขุดหลุมลึกอย่างน้อย 1 เมตร ใช้ปูนขาวรองก้นหลุม
   2. ทำลายภาชนะบรรจุโดยการตัดหรือทุบทำลายให้อยู่ในสภาพที่ไม่สามารถที่จะนำไปใช้ประโยชน์ได้อีก แล้วฝังในหลุมที่เตรียมไว้และกลบดินให้มิดชิด
   3. ห้ามนำภาชนะที่ใช้แล้วมาล้าง และนำไปบรรจุสิ่งของอย่างอื่นโดยเด็ดขาด
   4. ห้ามเผาพลาสติกหรือภาชนะบรรจุสารชนิดที่มีความด้นภายใน เพราะจะทำให้เกิดการระเบิดได้
   5. เมื่อมีสารเปรอะเปื้อนพื้นให้ใช้ดินหรือขี้เลื้อยหรือปูนขาวดูดซับและนำไปฝังดินที่ห่างไกลแหล่งน้ำ
   6. ติดป้ายที่ฝังภาชนะบรรจุสารแล้วล้อมรั้วเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่เก็ดและสัตว์เลี้ยง

  1.  
พอสท์ คาร์โบซัลแฟน 20% FMC
เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

บมจ. ธนาคารกรุงไทย สาขาสว่างแดนดิน ออมทรัพย์
Scan this!
หจก. ภูธรพืชผล
1004735631000250456
Accept All Banks | รับเงินได้จากทุกธนาคาร
พูดคุย-สอบถาม